กลุ่มโจร ที่บุกมาฆ่าชาวบ้าน
กลุ่มโจร ที่บุกมาฆ่าชาวบ้าน ชาวเมืองตายไปเป็นจำนวนมาก อรัญกับอาราม และชาวเมืองหลายคนต้องหนีตายเข้าไปในป่าจนเมื่อเหตุการณ์สงบลง และอรัญที่ยืนมองอยู่บนภูเขาลูกหนึ่งได้เห็นควันไฟลอยขึ้นเบื้องบนอารามที่เดินเข้ามาสมทบ และยืนมองด้วยอยู่นั้นได้แต่ถอนหายใจและเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะทำมาหากินกันอย่างไรล่ะทีนี้ท่านเจ้าเมืองก็ถูกจับตัวไปไม่รู้จะเป็นตายร้ายดีอย่างไรเลย อารามพูดออกมาด้วยความเสียใจ และเดินลงไปช่วยชาวเมืองคนอื่นๆ ดูแลคนที่บาดเจ็บจากนั้นไม่นานก็มีทหารที่รอดตายได้เข้ามาสมทบ
กับกลุ่มชาวบ้านที่หนีตายเข้ามาอยู่ในป่าทหารกลุ่มนั้น บอกว่ากำลังหาช่องทางเพื่อออกตามหาท่านเจ้าเมืองอยู่แต่ติดปัญหาตรงที่กำลังคนนั้นมีไม่มากนัก และยังไม่รู้ว่าพวกโจรจากต่างเมืองได้จับท่านเจ้าเมืองไปไว้ที่ไหน เมื่ออรัญได้ยินทหารพูดแบบนั้นเขาก็อาสาจะไปตามท่านเจ้าเมืองให้เองซึ่งทุกคนในที่นั้นพอได้ฟังเขาพูดก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้เพราะอรัญเป็นแค่เด็กหนุ่มชาวป่า และเพิ่งจะมาอยู่ในเมืองใหญ่ได้ไม่นานเท่าไหร่อีกทั้งฝีมือด้านการทหารก็ไม่มีแล้วจะไปช่วยท่านเจ้าเมืองได้อย่างไร ขนาดทหารฝีมือดียังมืดแปดด้าน มีแต่อารามที่พอจะรู้เรื่องราวของอรัญจากท่านชะตาฤาษีมาบ้างแล้ว
เขานั้นกลับรู้สึกมั่นใจอย่างประหลาดจะทำได้ตามที่พูดทุกท่านอย่าเพิ่งหัวเราะเยาะเจ้าหนุ่มอรัญเลยลองฟังความดูก่อนอาจจะมีช่องทางที่พวกท่านคาดไม่ถึงก็เป็นได้เจ้าคิดจะทำอย่างไรหรือเจ้าหนุ่มคิดจะลุยไปคนเดียวเลยหรืออย่างไรเมื่อทหารถามอรัญเขาก็ยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่งเพราะไม่แน่ใจว่าจะตอบออกไปแล้วผลตอบรับจะเป็นอย่างไรและสุดท้ายแล้วมันก็ตอบออกไปข้าเติบโตในป่าอยู่ในป่ามาตั้งแต่เกิด และข้าสามารถสื่อสารกับสัตว์ทุกตัวได้ทันพูดจบก็ได้ยินเสียงหัวเราะ จากกลุ่มชาวเมืองที่นั่งห้อมล้อมกันอยู่กลุ่มคนที่หัวเราะคิดว่าอรัญพูดเพ้อเจ้อ แต่พวกทหารกลับมองอรัญอย่างพินิจพิเคราะห์ และเอ่ยถามอรัญเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง
เจ้าแน่ใจหรือเจ้าหนุ่มสัตว์ป่ามากมายในป่านี้ล้วนเป็นสัตว์เดรัจฉานจะไม่กลัวจะถูกพวกมันฉีกเนื้อทำร้ายเจ้ารึ ไม่เป็นเช่นนั้นดอกท่านอย่ามองว่าบรรดาสัตว์เดรัจฉานจะโหดร้ายไปเสียทั้งหมดก็เห็นว่าคนเรานี่แหละที่โหดร้าย และน่ากลัวมากกว่าสัตว์เดรัจฉานอีกท่านเห็นศพเกลื่อนกลาดที่ในเมืองหรือไม่ทันเห็นไฟโหมกระหน่ำหรือเปล่านั่นคือฝีมือของคนทั้งนั้นบางครั้งคนเรานี่แหละที่เป็นเดรัจฉาน ทุกคนนิ่งอึ้งกับคำพูดของอรัญ และทหารก็ยินยอมให้เขานั้นออกไปตามหาท่านเจ้าเมืองโดยที่อรัญบอกว่าไม่ต้องการให้ใครไปกับเขาด้วยแต่เขาจะเข้าป่าไปคนเดียวจากนั้นอรัญก็มุ่งหน้าเข้าป่าลึกเพื่อไปพบกับสัตว์ป่าที่เป็นเพื่อนของเขาเมื่อได้พบกันทันได้เล่า
เรื่องราวทั้งหมดให้ฟังเสือที่แต่งตั้งตัวเองเป็นหัวหน้าสัตว์ป่าได้บอกว่า จะพาบรรดาสัตว์ออกตามหาท่านเจ้าเมืองกับอรัญด้วยโดยเสือได้ส่งนกออกไปบินหาข่าวไม่นานหลังจากนั้นนกพิราบก็ได้บินกลับมาบอกว่ารู้ทิศทางที่ท่านเจ้าเมืองถูกจับตัวไปแล้วจากนั้นสัตว์ทุกตัวได้ออกเดินทางโดยมีอรัญนั่งอยู่บนหลังเสือ ขบวนของสัตว์ป่าเดินทางไปจนถึงหุบเขาอันตราย แล้วไม่มีเส้นทางที่จะข้ามไปยังฝั่งตรงกันข้ามได้เสือได้บอกกับอรัญ ก็ตามที่นกพิราบไปหาข่าวมานั้นก็รู้ว่าเมืองแห่งหนึ่ง ได้ว่าจ้างโจรป่าที่อาศัยอยู่ในหุบเขาให้ออกไปเผาบ้านเผาเมืองที่อรัญพำนักอาศัยอยู่ และได้จับตัวท่านเจ้าเมืองมาทรมานที่หุบเขาในกลุ่มของพวกโจรจนกว่าจะตาย
เสือได้บอกกับอรัญอีกว่าตอนนี้เจ้าเมืองชั่วที่ได้ว่าจ้างกลุ่มโจรนั้นได้ออกเดินทางมายังเมืองที่อรัญอาศัยอยู่แล้ว พวกเราต้องพาท่านเจ้าเมืองไปยังบ้านเมืองให้เร็วที่สุดเพื่อจะได้ไปหยุดเจ้าเมืองชั่วคนนั้น เสือพูดกับอรัญแล้วก็สั่งให้ลิงตัวใหญ่นำพาอรัญกระโดดข้ามต้นไม้ และหุบเขาอันตรายไปส่วนเสือ และสัตว์อื่นๆ ก็ได้พากันเดินลัดเลาะไปอีกทางหนึ่งไม่นานหลังจากนั้นพวกสัตว์ป่า และอรัญก็ไปถึงหุบเขาที่เป็นของโจรได้เมื่อไปถึงหน้าซ่องโจรเสือได้สั่งทุกตัวให้ลุยเข้าไปจัดการกับพวกโจรที่สร้างกระท่อมกันอยู่หลายหลังในบริเวณนั้นพวกสัตว์ป่าเลยกระโจนเขาจัดการกับบรรดาโจรเหล่านั้นถึงแม้พวกมันจะหยิบจับอาวุธออกมาต่อสู้แต่ก็ไม่สามารถทำร้ายสัตว์ป่า และอรัญได้จนกระทั่งอรัญได้เข้าไปช่วยเหลือท่านเจ้าเมืองออกมา และพาขึ้นนั่งบนหลังช้างขบวนสัตว์ป่าก็ออกเดินทางกลับทันที
ท่านเจ้าเมืองมองบรรดาสัตว์ป่าด้วยความแปลกใจ และยิ่งเห็นอรัญพูดคุยกับพวกมันเขาก็ยิ่งพิศวง งง งวย แต่ก็ดีใจที่ตนเองนั้นหลุดรอดออกมาจากซ่องโจรได้เมื่อเดินทางกันมาถึงระหว่างทางก็มีนกพิราบบินโฉบลงมา และแจ้งข่าวกับเสือ ไอ้เจ้าเมืองชั่วคนนั้นใกล้จะถึงจุดหมายแล้วนะนกพิราบได้บอกกับเสือ เจ้าเมืองที่ว่าจ้างกลุ่มโจรให้มาทำลายบ้านเมืองนั้นเดินทางมาใกล้จะถึงแล้ว และจะเข้ายึดบ้านเมืองเป็นของตัวเองท่านเจ้าเมืองที่นั่งอยู่บนหลังช้าง เมื่ออรัญแจ้งข่าวให้รู้ก็มีสีหน้าเป็นกังวลเพราะตนเองยังต้องเดินทางอีกไกลกว่าจะไปถึงอีกทั้งยังเหลือตัวคนเดียวด้วยทหารก็กระจัดกระจายกันไปไม่สามารถติดต่อได้ อรัญบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วงเดี๋ยวเขาจะจัดการเองจากนั้นอรัญได้แบ่งกลุ่มสัตว์ป่าออกเป็น 2 กลุ่มโดยให้เสือเป็นหัวหน้ากลุ่มออกไปจัดการกับเจ้าเมืองชั่ว นั้นส่วนอีกกลุ่มให้ช้างนำทางไปส่งท่านเจ้าเมืองให้ถึงที่ส่วนอรัญได้นั่งอยู่บนหลังเสือ
และเสือก็วิ่งทะยานไปข้างหน้านำขบวนของสัตว์ป่าไปจัดการกับเจ้าเมืองช่วงคนนั้นไม่นานนักเสือที่อรัญทีหลังมาได้ไปยืนขวางกลุ่มคนต่างเมือง และร้องคำรามลั่นเจ้าเมืองชั่วตกใจจนตาเหลือก และยิ่งเห็นบรรดาสัตว์มากมายมายืนขวางทางเอาไว้เขาก็รู้ด้วยสัญชาตญาณแล้วว่าไม่ปลอดภัยแต่ไม่ทันจะได้สั่งการอะไร เสียงโฮกใหญ่จังขึ้นและเสืออีกหลายตัวก็พุ่งเข้าขย้ำผู้คนทันทีทุกคนพากันหนีตายกลับไปส่วนเจ้าเมืองชั่วถูกเสือที่อรัญขี่หลังมากัดจนตายคาที่ฝ่ายท่านเจ้าเมือง โขลงช้างที่พาตัวไปส่งจนถึงในเมือง และสัตว์ทุกตัวก็กลับเข้าป่าไปบรรดาทหารและผู้คนต่างๆ เมื่อรู้ว่าปลอดภัยดีแล้วก็เดินทางกลับเข้าเมือง และกลับไปยังบ้านของตนเองส่วนอรัญนั้น เสือก็ได้มาส่งถึงที่หน้าประตูเมือง ก่อนจากกันอรัญได้กอดเสือ และบอกขอบคุณสำหรับการช่วยเหลือขอบคุณพี่เสือมากนะที่ช่วยเหลือข้า
ในครั้งนี้ไม่เป็นไรสำหรับเจ้าแล้วข้า และพวกของข้าเต็มใจเสมอ กลับก่อนนะทั้งสอง ล่ำลากัน และอรัญก็ได้กลับไปที่บ้านของอารามหลังจากที่บ้านเมืองได้รับการซ่อมแซม และปรับปรุงใหม่แล้วทุกอย่างก็กลับมาเป็นเหมือนเดิมชาวเมืองกลับมาอยู่เย็นเป็นสุข และทำมาค้าขายกันอย่างราบลื่น ส่วนอรัญท่านเจ้าเมืองได้แต่งตั้งให้เป็นทหารที่มีหน้าที่คอยดูแลสัตว์ป่าในป่ากว้างทั้งหมด ท่านเจ้าเมืองยังได้สั่งห้ามไม่ให้ชาวเมืองทำร้ายสัตว์ป่าโดยเด็ดขาด และอนุญาตให้สัตว์ป่าเข้ามาในเมืองได้ แต่อย่างไรเสียสัตว์ป่าก็ไม่ได้เข้ามาเพ่นพ่านในเมืองอีก เพราะได้ให้สัญญาไว้กับอรัญแล้ว นับตั้งแต่นั้นมาทั้งชาวเมือง และสัตว์ในป่ากว้างต่างก็เป็นมิตรต่อกัน และช่วยเหลือกันและกันเรื่อยมา
อ่านต่อเพิ่มเติมได้ที่ ดนตรีร็อค